PRODUCT CATEGORY

REVIEW

รีวิว สาย HDMI : VELOCITA MILANO V สาย HDMI สำหรับผู้ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ

 

HDMI High Speed with Ethernet
VELOCITA MILANO V 

 
นับเป็นกระแสที่ Hot พอดู กับสาย HDMI ยี่ห้อใหม่ แบรนด์ VELOCITA ซึ่งถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ แต่ด้วยเทคนิคการออกแบบนับว่าโดดเด่นทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับการกล่าวขาน อันที่จริงก่อนหน้าจะวางตลาด HDMI ในซีรี่ส์ MILANO ทาง VELOCITA เองก็วางตลาดสายลำโพงมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ที่เด่นมากก็เห็นจะเป็นสายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ตระกูล ROME ปัจจุบันผู้ผลิตเจ้านี้ มีสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสายเคเบิลทั้งหมด 3 หมวด คือ


ROME Series: Hi-End Speaker Cable สายลำโพงระดับไฮเอ็นด์ เข้าหัวสำเร็จ ในตระกูล แบ่งเป็น 2 รุ่นใหญ่ๆ คือ Rome V และ Rome I

NAPLES Series: Speaker Cable (Roll) หมวดถัดมาเป็นสายลำโพงเช่นเดิม แต่เป็นรูปแบบสายลำโพงตัดแบ่ง ขายตามความยาว ราคาสบายกระเป๋าเริ่มต้นระดับหลักร้อยบาท แบ่งเป็น 3 รุ่น คือ Naples I, Naples V และ Naples X สามารถตัดได้จะเอาสั้นยาวเพื่อนำไปใช้งานกับลำโพงคู่หน้า เซ็นเตอร์ หรือเซอร์ราวด์ได้ตามสะดวก นอกจากนี้ท่านใดที่มีสายอยู่ แต่ยังไม่มีหัวต่อ ทาง Velocita ก็มีหัวบานาน่าจำหน่าย 

MILANO Series:
 Hi-End HDMI Cable สาย HDMI น้องใหม่ล่าสุด ปัจจุบันมี 2 รุ่น คือ MILANO V และ MILANO I ดังเช่นที่จะได้รีวิวต่อไปนี้

 

 

VELOCITA MILANO V บรรจุมาในกล่องสีดำ พร้อมสกรีนโลโก้ VELOCITA สีเงิน ตัดกับพื้นหลัง
เห็นได้โดดเด่นชัดเจน ดู "พรีเมียม" ดีทีเดียว ส่วนด้านหลังสกรีนรายละเอียดคุณสมบัติเด่นที่สำคัญ

สำหรับคุณสมบัติเด่นของ MILANO V HDMI ทาง VELOCITA ให้รายละเอียดไว้ ดังนี้
 

 

 Silver Integration Technic
เทคโนโลยีตัวนำที่เน้นขนาดหน้าตัดที่ใหญ่พิเศษ พร้อมเทคนิค “Silver Integration” ผสมผสาน "เงิน" เข้ากับตัวนำของสายและคอนเน็คเตอร์ ภายใต้โครงสร้างป้องกันสัญญาณรบกวนถึง 3 ขั้นตอน ยกระดับการนำสัญญาณดิจิทัล ปราศจากซึ่งปัจจัยลดทอนคุณภาพ ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้จากการใช้งาน คือ สีสันของภาพที่มีความสดอิ่ม กระจ่าง และคมชัด รวมไปถึงการถ่ายทอดน้ำหนัก รายละเอียดเสียงระดับ Micro และ Macro Details ที่ยากสัมผัสจากสาย HDMI ทั่วไป
 Silver Contact
มิใช่เน้นแค่คุณสมบัติตัวนำสายเท่านั้น “คอนเน็คเตอร์” ซึ่งเปรียบเสมือนต้นและปลายทางผ่านของสัญญาณย่อมมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน เหตุนี้การผสมผสาน “เงิน” ตลอดโครงสร้างตัวนำของคอนเน็คเตอร์ จึงเป็นเทคนิคเพิ่มคุณสมบัติการนำสัญญาณของ VELOCITA MILANO V HDMI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 Seamless Direct Crimping
เทคนิควิศวกรรมการเชื่อมต่อตัวนำสาย เข้ากับคอนเน็คเตอร์โดยตรงไร้ซึ่งสิ่งบิดเบือนขวางกั้น ให้พื้นที่หน้าสัมผัสดีเยี่ยม คุณสมบัติตัวนำไม่สูญเสียไปด้วยความร้อนจากการบัดกรี และไม่ถูกขัดขวางด้วยตัวเชื่อมประสานอย่างตะกั่ว การส่งผ่านสัญญาณจึงให้เสถียรภาพความต่อเนื่องดียิ่ง
 Solid Core Conductor
Skin Effect ที่พบได้ในโครงสร้างสายฝอย หรือ Stranded conductor จะรบกวนบิดเบือนคุณภาพของสัญญาณลงได้ VELOCITA MILANO HDMI ทุกรุ่น จึงใช้ตัวนำแบบ "แกนเดี่ยว" หรือ "Solid Core" เพื่อคงคุณสมบัติรักษาความบริสุทธิ์ของสัญญาณไว้เช่นเดียวกับต้นฉบับ

 

รายละเอียดข้างต้น เป็นคุณสมบัติเด่นบางส่วนของ MILANO V ทีนี้มาดูสภาพจริงๆ กันบ้าง ว่าเป็นเช่นไร


เมื่อเปิดฝาออกดู จะเห็นตัวสาย HDMI สีขาวๆ สลับดำ วางบนฟองน้ำกันกระแทก

 
นอกจากตัวสาย HDMI แล้ว ภายในกล่องจะบรรจุ Lifetime Warranty Card การ์ดพลาสติกแข็งประมาณบัตรเครดิต ซึ่งจะแสดงรายละเอียดข้อมูลร้านที่ซื้อ รุ่น และวันที่ เพื่อนำไปใช้แสดงสิทธิ์ "การรับประกันตลอดชีพ"

หากสุดวิสัยพบปัญหาไม่สามารถใช้งานสายเคเบิลของ VELOCITA ได้ตามปกติ สามารถนำมาเคลมกับร้านที่ซื้อได้ตามข้อกำหนด


ตรงนี้ทาง VELOCITA เน้นย้ำว่า ท่านใดที่ซื้อสายไป
ก่อนเดินออกจากร้านให้ตรวจสอบข้อมูลในจุดนี้ด้วย เพื่อประโยชน์ของท่านเองครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย

มาดูในส่วนของตัวสาย หรืออุปกรณ์หลักที่จะนำมาใช้งานกันบ้าง
ภายนอกนั้นท่านใดที่เคยเห็น Speaker Cable ของ VELOCITA รุ่น "ROME V" ก็คงจะคุ้นเคยกันดี
กับรูปแบบแจ็กเก็ตไนล่อนสีขาวสลับดำถักหุ้มโดยรอบตัวสายเพื่อความสวยงาม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเจ้านี้เขา
(จุดนี้จะต่างจากรุ่น MILANO I ที่เป็นไนล่อนถักสีดำล้วน)



ในส่วนของคอนเน็คเตอร์ บอดี้หลักเป็นโลหะสีดำหล่อขึ้นเป็นชิ้นเดียว ไม่ได้ทำเป็น 2 ชิ้นส่วน นำมาประกบ
เข้าด้วยกันแบบคอนเน็คเตอร์สาย HDMI ในท้องตลาดทั่วไป นอกจากดูสวยงามกลมกลืน ไร้รอยต่อแล้ว
ยังให้ความแข็งแรงทนทานกว่า


ในส่วนของปลายสาย ตำแหน่งติดตั้งของพินทั้ง 19 พิน มองภายนอกเผินๆ อาจจะดูไม่แตกต่างจากมาตรฐานที่พบเห็นได้ในสาย HDMI อื่นๆ แต่หากสังเกตที่ตัวโคงรสร้างขาพินดีๆ จะพบว่าเป็นสีเงิน มิได้เป็นสีทองแบบที่พบเห็นทั่วไป
ทั้งนี้สีเงินที่เห็น คือ วัสดุเงิน โลหะตัวนำที่ดีที่สุดในแง่การนำไฟฟ้า จากเทคนิคที่เรียกว่า Silver Integration ดังนั้นสำหรับ Milano V นอกจากผสมผสานเงินเข้ากับตัวนำของสายเคเบิลแล้ว ยังรวมไปถึงส่วนของคอนเน็คเตอร์พินด้วย
 
อีกเทคนิคหนึ่งที่สำคัญ แต่ไม่เห็นในรูป (เพราะว่าอยู่ภายใน) คือ การเชื่อมต่อเข้าหัวคอนเน็กเตอร์กับตัวนำสาย ด้วยวิธีการที่เรียกว่า Seamless Direct Crimping ซึ่งเป็นเทคนิคการยึดตัวนำเข้าด้วยกันโดยไม่ใช้วิธีการบัดกรีด้วยตะกั่ว และความร้อน หน้าสัมผัสของตัวนำสาย และโครงสร้างพินของคอนเน็คเตอร์ จึงสัมผัสกันโดยตรง ไม่มีตะกั่วขวางกั้น อีกทั้งโครงสร้างตัวนำก็ไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนด้วย นอกจากนี้ผลพลอยได้อีกอย่างจาก Seamless Direct Crimping คือ ถ้าได้เห็นสภาพข้างในจะพบกับความเรียบร้อย แลดูเป็นระเบียบมากกว่า และไม่มีมลพิษจากตะกั่วด้วยนะจ้ะ
 

ด้วยการที่ VELOCITA เลือกใช้เทคนิคตัวนำที่เรียกว่า Silver Integration โดยผสมผสานโลหะเงิน เข้ากับตัวนำแบบ Solid Core ที่มีขนาดหน้าตัดตัวนำใหญ่พิเศษ นั่นจึงส่งผลให้ขนาดหน้าตัดสายโดยรวมของ MILANO HDMI ใหญ่กว่าปกติ (Ø ≈ 9.67mm) ตัวสายอาจจะค่อนข้างแข็งอยู่บ้าง แต่ยังคงให้ระยะดัดงอสายได้ ไม่แข็งโป๊กเสียบยากจนเกินไปนัก และเมื่อพิจารณาในส่วนของหัวต่อ หรือคอนเน็คเตอร์ จะพบว่ามีขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐานทั่วไป
 
ข้อจำกัดของสาย HDMI ที่มีขนาดโครงสร้างใหญ่ที่หลายท่านอาจเป็นกังวล คือ เมื่อมีพื้นที่จำกัด (อย่างด้านหลังทีวี เครื่องเสียง) จะเกิดปัญหาการเสียบต่อหรือเปล่า โดยเฉพาะทีวียุคปัจจุบันที่มีขนาดบางลงๆ ทุกวัน พื้นที่เสียบต่อสายย่อมจะน้อยลงๆ สายใหญ่อาจจะเสียบไม่ได้ อีกทั้งโครงสร้างที่ใหญ่ ระยะดัดงอสายก็ย่อมจะไม่ยืดหยุ่นมากเหมือสายขนาดเล็ก เรียกว่าต้องเผื่อพื้นที่ว่างให้สายทิ้งตัวด้วย แต่ในประเด็นนี้สำหรับ VELOCITA MILANO V จะส่งผลกับการใช้งานจริงอย่างไร?

 
VELOCITA MILANO V ถือว่าเป็นสาย HDMI โครงสร้างใหญ่ ค่อนข้างมีน้ำหนักก็จริง แต่จากการใช้งานพบว่า คุณสมบัตินี้มิได้สร้างปัญหา สามารถเสียบต่อกับช่องต่อ HDMI ของทีวีจอบางยุคปัจจุบัน ที่มีเนื้อที่จำกัดได้ ความกระชับแน่นในการเสียบต่อดี ไม่หลวมคลอนหลุดง่าย แต่ก็ไม่คับจนเสียบยาก น้ำหนักสายที่ค่อนข้างมากอยู่สักหน่อย แต่มิได้เป็นปัญหาถ่วงดึงจนทำให้สายหลุด หรือทำให้หัวคอนเน็คเตอร์งอ เสียหาย


การใช้งานร่วมกับ Samsung 55F8000 ที่จะมีฝาปิดครอบช่องต่อด้านหลังทีวี เพื่อความเรียบร้อย สวยงาม ดังภาพ
ถึงแม้ Milano V จะมีขนาดสายค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ยังสามารถปิดฝานี้ได้ (เมื่อเสียบช่อง HDMI 1 - 3)


เช่นกัน เมื่อทดลองใช้งานโดยเชื่อมต่อเข้ากับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ อย่างเช่น การเสียบต่อกับ AV Processor/AV Receiver พบว่าให้เสถียรภาพได้ดี ไม่มีปัญหา ถ้ามีพื้นที่ว่างด้านหลังเครื่องประมาณสักคืบนึง ก็เสียบได้ครับ
 
 
ตอนได้สายมาใหม่ๆ แกะออกมาฟังแรกๆ เสียงจะติดคลุมเครืออยู่สักหน่อย ถึงแม้ยังพอได้เค้าว่าให้น้ำเสียงได้อิ่มเอิบ ทว่ายังออกไปทางอั้นๆ เสียงความถี่ต่ำเองก็ยังขาดแรงปะทะอยู่ แต่เมื่อเปิดเบิร์นไปสักระยะหนึ่ง เมื่อเลย 48 ชม. แรกไปแล้ว จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รายละเอียดที่เหมือนหลบใน ก็เปิดเผยให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความแน่ใจ เบิร์นต่อไปสัก 120 ชม. ได้ผลลัพธ์ดังนี้

นับว่า VELOCITA MILANO V ให้ดุลเสียงไม่เทไปทางใดทางหนึ่ง สิ่งที่อัพเกรดขึ้นจาก MILANO I ให้ความชัดเจนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายละเอียด น้ำหนักเสียง และบรรยากาศ จุดที่น่าสนใจสำหรับ MILANO Series คือ น้ำเสียงที่อิ่มแน่น นำไปฟังเพลงก็ให้เคลิบเคลิ้ม จุดที่พัฒนาขึ้นจาก MILANO I คือ ให้ความเนียนสะอาดไหลลื่นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เดิมทีสาย HDMI มักจะถูกมองว่าให้น้ำเสียงได้ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อเทียบกับสายอะนาล็อกหรือแม้แต่สายดิจิทัลแบบ Coaxial กล่าวคือฟังเพลงแล้วไม่ค่อยได้บรรยากาศ อะไรก็ดูเหมือนจะบีบๆ แข็งๆ ดูเกร็งไปเสียหมด แต่ตอนนี้ช่องว่างระหว่างสายอะนาล็อกหดแคบลงเรื่อยๆ (ซึ่งหมายถึง DAC ต้องดีด้วยนะ) ส่วน Coaxial ไม่น่าจะเป็นประเด็นอีกต่อไป

ถึงแม้จุดเด่นประการแรกจะเป็นเรื่องของน้ำเสียงที่อิ่มเอิบ แต่อีกจุดหนึ่งที่ MILANO V ไม่ขาด กลับดูจะทำได้ดีเสียด้วย คือ การแจกแจงรายละเอียดเสียง (ซึ่งมักจะเกิดกับสายราคาไม่สูง ที่เน้นเรื่องมวลเสียง) ซึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์ของการใช้ Silver contact การแจกแจงที่ว่า นอกจากปลายเสียงที่กระจ่างแล้ว ยังเปิดเผยดีเทลเช่นระยะห่างของชิ้นดนตรีที่ชัดเจนขึ้น ไม่ควบรวมหรือบีบรัดชิดกัน เป็นความกระจ่างที่ยังให้ความผ่อนคลาย ไม่เครียด ไม่อึดอัด ฟังดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งคงไม่ได้เน้นไปในแนวอึกทึก
 

มาดูเรื่องของการรับฟังร่วมกับระบบเสียงของภาพยนตร์บ้าง แน่นอนจุดที่สัมผัสได้ชัด คือ เสียงสนทนาที่ฟังเป็นธรรมชาติมาก ให้ความอิ่มเอิบ ฟังสบาย ไม่เจออาการแห้งบาง โดยเฉพาะเมื่อเปิดในระดับเสียงค่อนข้างดัง บรรยากาศโอบล้อมดูจะชี้ชัดตำแหน่งได้จะแจ้งขึ้น แต่ที่เด่น คือ มวลเสียงความถี่ต่ำที่สะอาด แผ่ และลงลึก ปริมาณเบสไม่ได้โอเวอร์เกินเลย หรือกระแทกกระทั้น แต่ให้โฟกัสได้ดี จึงมิได้เหมาะเฉพาะกับการรับชมภาพยนตร์อย่างเดียว แต่ควบรวมไปถึงในแง่ของการฟังเพลงแบบมัลติแชนเนลด้วย เสียงเอฟเฟ็กต์จากช่องเสียง LFE กับการรับชมภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงได้ดุดัน ก็ให้แรงปะทะกำลังดี ที่เด่นจะเป็นเรื่องของการคงบาลานซ์ย่านต่ำ ไม่เน้นปริมาณเบสต้นเพื่อสร้างอิมแพ็ค แต่ให้น้ำหนักความลึกเพื่อสร้างบรรยากาศ


 
ลักษณะของภาพ หลังจากเบิร์นเป็นระยะเวลา 120 ชม. เป็นดังนี้ จุดเด่นของ VELOCITA MILANO V คือ ความอิ่มแน่นของสี ที่ให้เนื้อสีที่เข้ม สด ไม่เน้นสว่างโพลน แต่ให้ระดับสีดำที่ดำลึก อันมีส่วนช่วยให้มิติภาพมีความลึกขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้งานร่วมกับโหมดภาพที่ให้ความเป็นธรรมชาติสูง เช่น Movie หรือ User จะให้ความสมบูรณ์กว่าอ้างอิงกับโหมดภาพที่ให้สีสันเกินจริง กำหนด Brightness ไม่เหมาะสม หรือเน้น Sharpness เกินพอดีอยู่ก่อน มันจึงมิใช่สายที่เพิ่มเติมส่วนที่ขาด หรือลดทอนส่วนที่เกินชัดเจนนัก 
 
 



HDMI VELOCITA MILANO V

ข้อดี
1. การผสมผสานวัสดุเงินกับตัวนำขนาดใหญ่ให้ผลลัพธ์ คือ แนวเสียงที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีความแห้งบาง ทว่าน้ำเสียงอิ่มใหญ่ มีน้ำมีนวล คล้ายคลึงอะนาล็อก ปลายเสียงเปิดเผย
2. ภาพอิ่มเข้ม ให้น้ำหนักของสีได้ดี
3. รับประกันตลอดอายุการใช้งาน หากพบปัญหาระหว่างใช้ สามารถเคลมกับร้านที่ซื้อได้

ข้อเสีย
1. ตัวสายค่อนข้างใหญ่ และแข็ง ดัดงอยากสักนิด จำเป็นต้องมีพื้นที่บ้าง แต่กับการเสียบต่อกับคอนเน็คเตอร์ของอุปกรณ์อย่างทีวีบางๆ ไม่มีปัญหา
2. ขณะทดสอบ ยังมีความยาวจำกัด ยาวสุดที่ 2 เมตร

หากเทียบกับสาย HDMI ระดับไฮเอ็นด์ในท้องตลาด กล่าวได้ว่า VELOCITA "MILANO V" มีราคาไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับศักยภาพที่ได้ หากท่านใดเคยประทับใจกับสายลำโพงของ VELOCITA "ROME V" จะพบว่าค้ายคลึงกันในแง่ของความไฮเอ็นด์ กล่าวคือจะช่วยอัพเกรดศักยภาพของซิสเต็มให้สูงขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับสายตลาด ในขณะที่ยังคงบาลานซ์ไม่เน้นหนักไปทางใด จึงแนะนำอย่างยิ่งสำหรับเติมเต็มศักยภาพของซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ให้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

<< Back